มวยไทย เป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของประเทศไทย มีเทคนิคการกอดคอต่อสู้ที่โดดเด่น โดยใช้ทั้งกายและใจในการต่อสู้ ซึ่งการโจมตีในมวยไทยใช้ร่างกายเป็นอาวุธที่เรียกว่า “นวอาวุธ” ประกอบด้วย หมัด, ศอก, เข่า, และเท้า หากนักมวยมีการเตรียมพร้อมทางร่างกายที่ดี อาวุธเหล่านี้จะทรงพลังอย่างมาก มวยไทยได้แพร่หลายไปทั่วโลกในช่วงศตวรรษที่ 20 เมื่อนักมวยไทยสามารถเอาชนะนักสู้ที่มีชื่อเสียงจากแขนงอื่นได้
หัวข้อ
การส่งเสริมและการยอมรับในระดับนานาชาติ
ปัจจุบัน สหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (IFMA) กำลังผลักดันให้มวยไทยเข้าสู่กีฬาโอลิมปิก และในปี พ.ศ.2557 องค์การสหประชาชาติได้ยอมรับมวยไทยเป็นกีฬาแห่งประชาคมโลก โดยได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับสภามวยไทยโลก และสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ
ประวัติศาสตร์มวยไทย
มวยไทยมีประวัติศาสตร์ยาวนาน เริ่มต้นจากการใช้ในการสงครามในสมัยก่อน แตกต่างจากมวยไทยในปัจจุบันที่ใช้เป็นการกีฬา มวยไทยยังคงได้ชื่อว่าเป็นศาสตร์การโจมตีทั้งแปด ซึ่งรวมถึงสองมือ สองเท้า สองศอก และสองเข่า (บางตำราอาจรวมการใช้ศีรษะโจมตีเรียกว่า นวอาวุธ หรือรวมการใช้บั้นท้ายกระแทกเรียกว่า ทศอาวุธ)
มวยไทยในภูมิภาคต่างๆ
มวยไทยสืบทอดมาจากมวยโบราณ ซึ่งแบ่งออกเป็นหลายสายตามท้องที่ เช่น มวยท่าเสา (ภาคเหนือ), มวยโคราช (ภาคอีสาน), มวยไชยา (ภาคใต้), มวยลพบุรี และมวยพระนคร (ภาคกลาง) มีคำกล่าวว่า “หมัดหนักโคราช ฉลาดลพบุรี ท่าดีไชยา ไวกว่าท่าเสา”
การฝึกหัดและการถ่ายทอด
ในสมัยโบราณมีสำนักเรียนมวยที่แตกต่างจากค่ายมวย โดยสำนักเรียนมีเจ้าสำนักหรือครูมวยที่มีฝีมือและชื่อเสียงเป็นที่เคารพ มีความประสงค์ที่จะถ่ายทอดวิชาให้กับศิษย์ที่มีความเหมาะสม ส่วนค่ายมวยเป็นที่รวมของผู้ที่ชื่นชอบในการชกมวยและมีจุดประสงค์ที่จะแลกเปลี่ยนวิชาความรู้เพื่อนำไปใช้ในการแข่งขันหรือประลอง
ตำนานและบุคคลสำคัญ
มีตำนานพระมหากษัตริย์และขุนนางที่เชี่ยวชาญการต่อสู้ปลอมตนเข้าร่วมแข่งขันเพื่อทดสอบฝีมือ เช่น พระเจ้าเสือ, พระเจ้าตากสินมหาราช, และพระยาพิชัยดาบหัก ในสมัยอยุธยาตอนปลาย นายขนมต้ม ครูมวยชาวอยุธยา ได้ชกมวยกับชาวพม่าและชนะหลายครั้ง เป็นที่ปรากฏถึงความเก่งกาจเหี้ยมหาญของวิชามวยไทย
มวยไทยในยุครัตนโกสินทร์
กีฬามวยไทยได้รับความนิยมมากในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยเฉพาะในยุครัชกาลที่ 5 ที่พระองค์ได้โปรดให้จัดการแข่งขันชกมวยหน้าพระที่นั่ง และพระราชทานบรรดาศักดิ์แก่นักมวยฝีมือดีจากภาคต่างๆ ในสมัยรัชกาลที่ 6 มีการแข่งขันระหว่างมวยไทยและมวยต่างชาติ เช่น กังฟู จากประเทศจีน การแข่งขันเหล่านี้ทำให้มวยไทยได้รับความนิยมและยอมรับในระดับนานาชาติ
ประเภทของมวยไทย
มวยไทยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักคือ มวยหลักหรือมวยแข็ง และมวยเกี้ยวหรือมวยอ่อน
- มวยหลักหรือมวยแข็ง:
- มีการต่อสู้แบบรัดกุม สุขุมรอบคอบ
- ตั้งท่าคุมมวยและจดมวยแบบมั่นคง
- รอจังหวะในการโจมตี มีความแม่นยำและหนักหน่วง
- มวยเกี้ยวหรือมวยอ่อน:
- ใช้ชั้นเชิงแพรวพราว
- เคลื่อนตัวอย่างคล่องแคล่ว ว่องไว
- หลอกล่อและหลบหลีกคู่ต่อสู้ได้ดี
นอกจากนี้ยังมีมวยที่ผสมผสานระหว่างมวยหลักและมวยเกี้ยว รวมถึงมวยวงนอกและมวยวงใน ซึ่งหมายถึงการถนัดในทักษะการต่อสู้แบบต่างๆ เช่น การใช้ไม้ยาวหรืออาวุธยาว
สรุป
มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีความหลากหลายและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การฝึกฝนและการแข่งขันมวยไทยเป็นที่นิยมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ การส่งเสริมและยอมรับมวยไทยในระดับนานาชาติทำให้มวยไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับในฐานะศิลปะการต่อสู้ที่ทรงพลังและมีคุณค่า
ติดต่อเรา
- สถานที่ : ถนน ปุณณกัณฑ์ ตำบล คอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ สงขลา 90110
- Facebook : Taifudo Academy – โรงเรียนศิลปศาสตร์การป้องกันตัวไทยหัตถยุทธ
- Instagram : taifudoacademy.official
- Tiktok : Taifudo Academy
- Twitter : Taifudo Academy
- Youtube : @taifudoacademy
- LINE : Taifudo Academy
- เบอร์โทร : 083 923 4204
- เว็บไซต์ : www.taifudo.com
- แผนที่ : Taifudo Academy