*เว็บไซต์กำลังปรับปรุง*

ผงยาจินดามณี ตำรับโบราณและพลังแห่งวาสนา

ผงยาจินดามณี ตำรับโบราณและพลังแห่งวาสนา
4P1A0873 (Web H)

ผงยาจินดามณี เป็นตำรับยาสมุนไพรโบราณที่มีการพรรณนาไว้อย่างกว้างขวางในตำราโบราณว่าเป็น “จินดามณีโอสถอันพิลาส” ที่ประกอบด้วยสมุนไพรหลากหลายชนิดรวมกันเพื่อสร้างสรรค์เป็นยาที่ทรงคุณค่าและอานุภาพ โดยส่วนผสมหลักประกอบด้วย ดอกคลาด ดอกจันทร์ เกสรบุษบัน เปราะหอม กำยาน โกฐสอโกฐเขมา ทองน้ำประสาน เปลือกกุมชลธาร กรุงเขมา เท่ากัน

การสร้างผงยาจินดามณีจะมีการตำและบดสมุนไพรให้ละเอียด จากนั้นผสมพิมเสน ชะมด น้ำผึ้ง รวงรัน กฤษณา น้ำมะนาว และน้ำมะเขือขื่นเข้าด้วยกัน ก่อนจะนำมาบดและปั้นตากแห้งไว้กินเป็นยาที่เชื่อว่าจะนำมาซึ่งความสวัสดิ์สวัสดิ์และโชคลาภ นอกจากนี้ตำราโบราณยังระบุว่า ผู้ที่ได้กินยาจินดามณีจะมีโชคลาภ พัสดุเงินทองไหลมาเทมา และจะสามารถระงับอันตรายต่าง ๆ ทั้งปวงได้

การจัดเตรียมส่วนผสมของยาจินดามณีจะต้องมีการเสกสมุนไพรแต่ละชนิดด้วยคาถาที่กำกับไว้ เพื่อเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ โดยต้องทำการบดสมุนไพรด้วยลูกหินและแม่หินที่ลงอักขระเลขยันต์ และมีคาถาประกอบขณะบดยา

พิธีการสร้างยาจินดามณีจะจัดขึ้นในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 12 โดยหากปีใดได้ฤกษ์ราชาฤกษ์หรือเพชรฤกษ์จะถือว่าเป็นฤกษ์ดีเยี่ยม พิธีนี้จะต้องมีการจัดเครื่องสังเวยเทวดาบัตรพลีต่าง ๆ รวมทั้งราชวัตร ฉัตรธงภายในพระอุโบสถ และมีสายสิญจน์รอบพระอุโบสถแต่ละทิศ โดยมีการลงยันต์ประจำทิศด้วยผ้าแดง

ผู้ร่วมพิธีปั้นเม็ดยาหรือกดพิมพ์พระจะต้องภาวนาพระคาถาไปด้วย และเมื่อเสร็จสิ้นการปั้นหรือกดพิมพ์ยาจินดามณีแล้ว จะต้องนำไปปลุกเสกด้วยมนต์ขลังอย่างน้อย 7 เสาร์ 7 อังคาร

การสร้างยาจินดามณีนี้เรียกอีกอย่างว่า “ยาวาสนา” ผู้ที่ได้รับประทานยาจินดามณีจะมีโชคลาภและความสวัสดิ์ในชีวิต อีกทั้งยังสามารถป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ รวมถึงอหิวาตกโรค และสามารถช่วยบรรเทาโทษทัณฑ์และอาการป่วยหนักได้

ผงยาจินดามณีจึงเป็นตำรับยาสมุนไพรที่มีคุณค่าสูงและมีความเชื่อในพลังแห่งวาสนาที่สามารถนำพาความโชคลาภและความสวัสดิ์สวัสดิ์มาสู่ผู้ที่ได้รับประทาน

สาหรับวิธีการใช้ยาขอยกเอามาเพียงบางส่วนดังนี้

ถ้าใช้รักษาอหิวาตกโรคให้เอายอดทับทิมต้มผสมกับกานพลูและนํ้าปูนใส แล้วฝนเม็ดยาใส่ลงไปดื่มรับประทานหายจากโรคแล

แก้โรคเสมหะดีขึ้น (คนป่วยถ้าเสมหะตีขึ้นแล้ว มักจะไม่รอด) ให้ใช้ดีหมีผสมนํ้าร้อน แล้วใส่ยาจินดามณี ผสมลงไปรับประทาน

เกิดคดีความขึ้นโรงขึ้นศาล ให้เอายาใส่นํ้าเสกด้วย “เอกัง จินดามณีมันตัง” เป็นเมตตามหานิยมแล้วเอานํ้าประพรมศีรษะอมเม็ดยาไว้ตลอดเวลา จะชนะความทั้งสิ้นแลหากจะให้ปัญญาดี ให้เสกด้วยพระคาถาต่อไปนี้ 3 คาบ

“ตะโตโส ปัณฑิโต ปิหิโส อัตถะ ทัสสีมะโหสะ โถ” แล้วอมยาจะท่องมนต์คาถาสารพัดวิชา จำได้สิ้นที่หลงลืมก็จะระลึกได้อุปเทการใช้ผงยาจินดามณี ของวัดกลางบางแก้วนี้ยังมีอีกมาก เอาไว้กล่าวถึงในบทเฉพาะเกี่ยวกับพระคาถาอาคมของหลวงปู่บุญ

พระคาถาเสกยาจินดามณี

“จินดามณี ปิยังมันตัง ยะสังธาสังโกนัง อุปะสันติ สิเนหัง มาตาปิตาวะ โอระหัง ปะโพตันจะ มหาราชา ตะวังมังโปสัตถุ โนทีปัง กาเรเทโว สุโป เสทิ กิญจิ เทโว เย สักโก ปัชชัง ทัสมิง กินเนวาทัตตาปิยัง กันตัง สาริปุตโต ภวันตุ เม สิทธิลาภัง ชนานะเย มณีจินดา ปิยัง จะ ธะนังสัพเพชะนาพหูชะนา ปิยังมะมะ”

มนต์จินดาบทนี้มีคุณเป็นอเนกประการ ขอให้ผู้มีเม็ดยาหรือพระยาจินดามณี หมั่นท่องบนภาวนาเป็นประจำจะช่วยเสริมอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์ของยาให้บังเกิดสรรพคุณเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ แต่หากท่านยังไม่มีเม็ดยาหรือพระยาจินดามณี ถ้าจะจดจำเอาไว้สวดภาวนาอยู่เป็นนิจก็ไม่ถือว่าเป็นความผิด พุทธคุณนั้นมากหลาย

ตำรับยาส่วนผสมของยาจินดามณีได้พรรณนาเอาไว้อย่างกว้างๆในเบื้องต้นของตำราว่า จินดามณีโอสถพิพาสประกอบดอกคราดดอกจันทน์เกสรบุษบัน เปราะหอมกำยาน โกฐสอ โกศเขมาทองนํ้าประสาน เปลือกกุ่มชลธาร กรุงเขมาเท่ากัน ผสมแล้วตำบดพิมเสน ชะมด นํ้าผึ้ง รวงรัน กฤษณา นํ้ามะนาว นํ้ามะเขือ ขื่อดั้น ผสมยาเข้าด้วยกัน บดปั้นตากกิน เป็นยาวาสนา เลิศลํ้าตำราในโลกแผ่นดิน อุปเท่ห์กล่าวไว้ ผู้ใดได้กินจะสวัสดิ์โสภิณกว่าคนทั้งหลาย พัสดุ เงินทอง จักพูนกูลนอง กว่าโลกหญิงชายนำมาบูชาอหิวาต์ก็มิวาย ระงับอันตราย ทั้งสี่กิริยา โทษหนักเท่าหนัก มาตรแม้นประจักษ์ถึงกาลมรณา ถ้าแม้นใครกินซึ่งยาวาสนากลับน้อยถอยคลาเคลื่อนคลายหายเอย

สรรพคุณยาจิดามณีถือว่ารักษาโรคได้ครอบจักรวาลเช่น แก้โรคจักษุ 6 แก้ในจมูก 3 ประการ ในลิ้น 6 ประการ ในฟันในท้อง 4 ประการ แก้ไข้บั้นปลายก็ได้ แก้ลมมหาสดมภ์ แก้ลมราชยักษ์ กุมภกัณฑ์ยักษ์ แก้อ่อนเปลี้ยเพลียใจ คลื่นไส้อาเจียน เป็นยาครรภ์รักษา แก้หัวพิษ หัวกาฬ ละลอกนํ้า ละลอกไฟ ผิวเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ตายไปทั้งตัวก็ดี ฝ่ายซ้ายขวาก็ดี ตีนมือ คางขากรรไกรก็ดี หาสมประดีไม่ได้ไซร้ให้เอาหญ้าฝรั่ง พิมเสน ทองคำ บดด้วยยาละลายกรองลงไปได้สติลืมตา มีนํ้าตาไหล นํ้าลายยืด แล้วหายแล ถ้าคนไข้บีบมือเหมือนจะออกคำ แต่ออกมิได้ให้เอาดีหมีก็ได้ ถ้าไม่มีดีงูก็ได้ ต้มนํ้าให้ละลายประมาณครึ่งถ้วยพริก ใส่เหล้าครึ่งหนึ่งให้กินเถิด ถึงเสลดหางวัวตีขึ้นก็จักกลับหาย หายมามากแล้ว เป็นต้น

นอกจากนี้แล้วยังมีคติความเชื่อและคำบอกเล่าต่อๆกันมาว่า หากแต่ถ้ายังไม่รับประทานก็นิยมพกพาติดตัวเพราะเชื่อว่ายาวาสนาจินดามณี ชื่อวาสนาเป็นชื่อที่มงคลแก่ตัวเองในปัจจุบันและได้บรรจุอาคมเข้าไปเพื่อช่วยรักษาโรคต่างๆ สารพัดโรค ตามแต่ผู้รับประทานจะอธิษฐานและช่วยในเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ

แม้ผงยาจินดามณีจะขึ้นชื่อว่ามีทั้งพุทธคุณและสรรพคุณสูงแต่มักไม่มีนักสร้างวัตถุมงคลกล้าลงทุกสร้าง เพราะมวลสารผสมยาจินดามณีส่วนใหญ่เป็นของหายากและมีราแพง เช่น งาช้างนํ้า งาช้างบก งากำจัด งากำจาย และเขากวางหลุด เป็นต้น แต่ที่หายากแบบสุดๆ มี 3 ชนิด คือ

  1. อำพันปลาวาฬ ซึ่งเป็นนํ้าเชื้อของปลาวาฬที่ผ่านการผสมพันธุ์แล้วหลุดลอยขึ้นมาเหนือผิวนํ้าระหว่างสัมผัสกับนํ้าทะเลก็จะแข็งตัวคล้ายๆ กับพลอยสีเหลือง ทั้งนี้ชาวประมงที่พบเห็นจะเก็บและหวงแหนมากเพราะถือเป็นของหายาก และใช้เป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง มีคุณทางเมตตาและแคล้วคลาด ราคาซื้อขายกันหลักแสนต่อเม็ด (ขนาดใหญ่กว่านิ้วแม่มือเล็กน้อย)
  2. นํ้านมเสือหย่า (เสือคัด) ซึ่งเป็นนํ้านมของแม่เสือที่ไม่อยากให้ลูกกินนม เนื่องจากลูกฟันขึ้นแล้วเมื่อกินก็จะรู้สึกเจ็บ ดังนั้นแม่เสือจะเอาลำตัวไปนาบลงบนแผนหินเพื่อให้นมไหลออกมา ซึ่งพบในป่าลึกตามผนังถํ้า หรือแผ่นหิน ราคาซื้อขายไม่ตํ่ากว่ากิโลกรัม ละ 2 แสนบาท
  3. นอแรด แม้จะหาไม่ยากแต่มีราคาแพงมากต้องสั่งซื้อจากต่างประเททศเท่านั้น ราคานอละไม่ตํ่ากว่า 1 ล้านบาท

ขณะเดียวกันยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่น่าสนใจคือหากศึกษาประวัติการจัดสร้างยาผงจินดามณี ต้องทำเพื่อช่วยชีวิตมนุษย์เท่านั้นจะทำเป็นการค้าหรือพุทธพาณิชย์ไม่ได้ เพราะเป็นเคล็ดลับของวิชานี้ซึ่งมีการสาปแช่งไว้ว่า “ใครทำขายทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวต้องมีอันเป็นไป” หากใครได้ศึกษาข้อมูลย้อนหลังของพระและวัดใน จ.นครปฐม ที่ทำยาจินดามณีแล้วหาประโยชน์ใส่ตัวไม่นำไปบำรุงพระพุทธศาสนา หรือไม่สร้างสาธารณประโยชน์ส่วนรวมต้องมีอันเป็นไปทุกราย ด้วยเหตุนี้ เมื่อพระและวัดใดสร้างผงยาจินดามณีต้องทำเพื่อมอบให้เป็นที่ระลึกผู้ร่วมบุญกับวัดเท่านั้น

ด้วยเหตุที่มวลสารที่นำมาผสมเป็นตัวยาวาสนาจินดามณีมีราคาแพงการจัดสร้างพระด้วยผงยาจินดามณีจึงไม่ค่อยมีนักสร้างวัตถุมงคลรายใดกล้าสร้าง ส่วนใหญ่จะเป็นวัดสร้างเองและสร้างได้จำนวนไม่น้อย เพื่อแจกจ่ายเป็นของที่ระลึกในบุญประเพณีของวัดเช่นเดียวกับโบราณอาจารย์ในอดีต ผู้ที่ได้ครอบครองพระผงยาจินดามณีจึงมีแต่ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหรืออยู่ติดกับวัดเท่านั้น

ติดต่อเรา

บทความและข่าวสารอื่นๆ

IMG_2261 (Web H)
สนามมวยเวทีลุมพินี (อังกฤษ: Lumpinee Boxing Stadium) เป็นสนามมวยมาตรฐานของประเทศไทยที่มีความสำคัญเที...
IMG_2261 (Web H)
บอดี้การ์ด หรือผู้คุ้มกันส่วนบุคคล คือบุคคลที่ได้รับการฝึกฝนและว่าจ้างให้ทำหน้าที่ปกป้องบุคคลสำคัญจา...
IMG_2261 (Web H)
ไทยไฟต์ (THAI FIGHT) เป็นทัวร์นาเมนท์มวยไทยระดับโลกที่เริ่มจัดมาตั้งแต่ พ.ศ.2553 โดยมีนักมวยไทยจากนา...
IMG_2261 (Web H)
ดาบคาตานะ (Katana) เป็นดาบญี่ปุ่นที่มีความสำคัญและเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นนักรบซามูไร (Samurai) ควา...
IMG_2261 (Web H)
ซามูไร (Samurai) คือกลุ่มนักรบผู้ทรงเกียรติที่มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น นักรบซามูไรไม่ได...
4P1A0873 (Web H)
กล็อก หรือ Glock เป็นชื่อของปืนพกที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก ผลิตโดยบริษัท G...
Before you continue to use Taifudo Academy
We use required cookies for site navigation, purchasing, improving your browsing experience to:
  • Provide you with services described on the Sites, general administrative and performance functions, and support services;
  • Operate the Sites and verify your identity when you sign in to any of our Sites;
  • Inform you about company news and give updates on our services;
  • Carry out technical analysis to determine how to improve the Sites and services we provide;
  • Track outages and protect against spam and fraud.
If you choose to “Accept all,” we will also use cookies and data to:
  • Improve site performance;
  • Deliver and measure the effectiveness of ads;
  • Show personalized content and ads, depending on your settings.
You can always change your browser settings and other ways to reject cookies. To learn more, please visit www.allaboutcookies.org.