หลายปีที่รอให้มีหนังสือประวัติตัวเอง ทำไมนะเหรอ?
- เพราะเวลาเล่าประวัติตัวเองให้ลูกศิษย์ฟังหรือเพื่อนที่สนใจฟัง ทุกคนจะงงๆ เรื่องห้วงเวลา ในการฝึกมวยและชื่อครูบาอาจารย์ที่ผมกล่าวถึง ซึ่งเป็นการยากที่จะเข้าใจ
- ผู้ที่ฝึกฝนกับผมหรือผู้สนใจ จะได้รู้ว่าผมเรียนมวยมาจากที่ใด กับครูบาอาจารย์ท่านใด เมื่อพวกเขารู้จะได้ทราบต้นสายมวยของผมและหากมีโอกาสที่พวกเขาได้พบต้นสายมวย จะได้ไม่ไปอวดดีกับต้นสายมวยหรืออยากจะต่อวิชาให้กลับไปต่อจากสายมวยที่ผมได้กล่าวไว้
- ได้เป็นแนวทางให้ผู้สนใจที่ได้อ่าน สามารถนำไปเป็นข้อคิดและแนวทางเลือกว่าตนเองน่าจะเหมาะกับมวยอะไร จะได้เลือกเรียนให้ตรงแนวทางที่ตนชอบ ไม่ต้องไปเสียเวลาแบบผม
ผมต้องใช้เวลาหลายปี เอาตัวเองเป็นห้องสมุดที่มีชีวิต ฝึกฝนมวยในหลายแขนงวิชา สิ่งที่น่าเสียดายคือภูมิปัญญาของครูอาวุโส ที่ใช้เวลาทั้งชีวิตสั่งสมประสบการณ์ กลั่นกรองจนตกผลึก ผมจึงใช้เวลาที่หาโอกาสได้ เอาตัวเองไปรับภูมิปัญญาจากครูอาวุโสหลายๆ ท่าน แต่ก็ยังอยู่บนพื้นฐานของ “การมีบุญ วาสนาต่อกัน” ด้วย เมื่อมีโอกาสพบเจอจะรีบไขว่คว้าโอกาสนั้น “ผมจึงใช้ตัวเองเป็นห้องสมุดที่มีชีวิต”
- ขอบคุณโอกาส ดีดี
- ขอบคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้
- ขอบคุณ คุณแม่รัศมี อัจฉริยะฉาย ที่ให้บ้านมาทำโรงยิม เพื่อให้ลูกชาย ได้ประกอบสัมมาอาชีพ ที่ตนรัก
- ขอบคุณพี่โจแรงเยอร์นำพาให้ผมได้รู้จักกับพี่สมิธ บก.หนังสือ GB
- ขอบคุณพี่สมิธ ที่ให้โอกาสผมได้เขียนบทความลงคอลัมน์ในหนังสือ GB และชี้แนะแนวทางในการรวมเล่มหนังสือ “ศาสตร์ไทฟูโด”
- ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในวงการวิทยายุทธไทย ที่ให้กำลังใจและสนับสนุนให้เขียนบทความจนมีหนังสือเล่มนี้
- ขอบคุณทีมงานดีดี ของหนังสือ GB ทุกท่านที่ทำให้เกิดหนังสือเล่มนี้ขึ้น
- ขอบคุณแค็ทรีญา อัจฉริยะฉาย ภรรยาที่อดทนและคอยอยู่เคียงข้าง ทำให้มีบทความและหนังสือขึ้นมาได้
- ขอบใจลูกศิษย์ของผมทุกคนที่ร่วมใจกัน สนับสนุนให้หนังสือเล่มนี้คลอดออกมา
- ขอบคุณวันดีดี ที่ทุกคนให้กำลังใจและช่วยเหลือ ขอบคุณครับ
ด้วยรักจากใจ
ชีวิน อัจฉริยะฉาย
24/01/2563